Mai
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่น
1Shibuya Crossing (Tokyo) : ห้าแยกชิบุยะ
หนึ่งในหนึ่งมุมสวยที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงแต่แสดงถึงวิถีชีวิตของคนโตเกียวได้ดีสุด ๆ ก็คือบริเวณห้าแยกแห่งถนนชิบุยะใจกลางกรุงโตเกียวแห่งนี้ ที่หากได้ขึ้นไปถ่ายรูปบนมุมสูงของห้าแยกนี้จะสามารถเก็บภาพสีสันของผู้คนในเมืองโตเกียวและถ่ายภาพช็อตความวุ่นวายในเมืองนี้ได้อย่างสวยงาม
แถมการเก็บภาพขณะยืนอยู่กลางห้าแยกนี้ยังเป็นมุมถ่ายภาพสุดท้ายทายของเหล่านักท่องเที่ยว ซึ่งในย่านชิบุยะแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอันเป็นแลนด์มาร์กของการช้อปปิ้งในโตเกียวและยังเป็นย่านที่มีรูปปั้นสุนัขผู้ซื่อสัตย์อย่างเจ้าฮาจิโกะที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟชิบุยะด้วย
Shibuya Crossing (Tokyo)
ที่อยู่ | 2 Chome-3-1 Dōgenzaka, Shibuya-ku, Tōkyō-to 150-0043, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shibuya จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาที |
2
2Kinkakuji (Kyoto) : วัดทองคินคาคุจิ
วัดทองคินคาคุจิเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดงดงามที่หลายคนมักจะวางแพลนเอาไว้หากจะเที่ยวในเมืองเกียวโต เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามอันสวยงาม ที่วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นและเป็นมุมสวยน่าประทับนั้นเป็นเพราะสีทองอันโดดเด่นของทั้งตัววัดที่เปล่งประกายอยู่ท่ามกลางสีเขียวของป่าไม้ บวกกับภาพสะท้อนตัววัดอันงดงามบริเวณน้ำเบื้องล่าง อันเป็นทิวทัศน์สุดงดงาม
ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ใบไม้เริ่มร่วงโรยราอย่างในฤดูใบไม้ร่วงด้วยแลล้วล่ะก็ สีแดง ส้มและเหลืองของใบไม้ทั้งหลายก็ช่วยทำให้วัดมีความงดงามไปอีกแบบ
Kinkakuji (Kyoto)
ที่อยู่ | 1 Kinkakujicho, Kita Ward, Kyoto, Kyoto Prefecture 603-8361, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งลงไปลงที่สถานี Kyoto แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟใต้ดินเพื่อไปลงสถานี Kitaoji จากนั้นนั่งรถบัสสาย 101 หรือ 205 ไปลงป้ายรถบัส Kinkakuji-michi หรือนั่งรถบัสสาย 101 จากสถานี Kyoto ไปลงที่ป้ายรถบัสเดียวกันเลยก็ได้ |
เวลาทำการ | 9.00-17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 300 เยน |
Website | Kinkakuji (Kyoto) |
3Itsukushima Shrine (Hiroshima) : ศาลเจ้ากลางทะเล
แม้ฮิโรชิม่าจะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่เมืองนี้ก็มีมุมสุดอเมซิ่งที่งดงามไม่ด้อยไปกว่าที่ไหนอย่างศาลเจ้ากลางทะเล Itsukushima ที่มีประตูศาลเจ้าโทริอิสีแดงตั้้งอยู่กลางทะเลจนดูเสมือนลอยอยู่ในน้ำ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินด้วยละมุมสวยของศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยิ่งสวยขึ้นไปอีกด้วยแสงสีจากธรรมชาติ
Itsukushima Shrine (Hiroshima)
ที่อยู่ | 739 0588, Hiroshima Prefecture Hatsukaichi City Miyajima Town 1-1 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟ JR สาย San-yo Line มาลงสถานี Miyajimaguchi แล้วเดินอีก 5 นาทีไปยังท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะมิยาจิมา |
เวลาทำการ | 06.30-18.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 100 เยน |
Website | Itsukushima Shrine (Hiroshima) |
4Mount Fuji From Lake Kawaguchi (Kawaguchiko) : ภูเขาไฟฟูจิแห่งทะเลสาปคาวากูจิโกะ
ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาไฟที่สวยที่สุดลูกหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น มาทั้งทีหลายคนก็คงอยากเก็บภาพความงามของภูเขานี้เป็นความทรงจำดี ๆ บริเวณทะเลสาปคาวากูจิโกะเป็นสถานที่หนึ่งที่เราสามารถเก็บภาพความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ พร้อมทิททัศน์รอบ ๆ เอาไว้เป็นไฟล์ภาพได้อย่างสวยงามทั้งยังสามารถเห็นด้วยตาได้อย่างงดงามเกินคำบรรยาย
เรียกได้ว่าบริเวณนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของคนที่ตั้งใจจะมาชมภูเขาไฟลูกนี้เลยก็ว่าได้
Mount Fuji From Lake Kawaguchi (Kawaguchiko)
ที่อยู่ | 3641, Funatsu, Fujikawaguchiko-machi, Minamitsuru-gun, Yamanashi-ken 401-0301, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย Chou Line จากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko (ผู้ใหญ่คนละ 1,110 เยน เด็ก 560 เยน (เที่ยวเดียว) |
5Kawachi Fuji Garden (Fukuoka) : ซุ้มดอกฟูจิแห่งคิวชู
ความงามของสวนดอกไม้ในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นอีกหนึ่งมุมที่งดงามไม่แพ้กัน อย่างในสวนคาวาจิฟูจิแห่งภูมิภาคคิวชูนี้ก็มีอุโมงค์ดอกวิสทีเรียหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่าดอกฟูจิเรียงรายเป็นทางยาวสวยงามราว 100 เมตร สีดอกฟูจิของสวนแห่งนี้จะไล่ระดับตั้งแต่สีม่วงเข้ม ม่วงอ่อน ไปจนขาว เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจ ดอกวิสทีเรียของที่นี่จะบานเต็มที่ประมาณในช่วงเดือนพฤษภาคม แวะมาแล้วเพิ่มความสดใสให้ทริปของคุณได้ที่นี่
Kawachi Fuji Garden (Fukuoka)
ที่อยู่ | 2-2-48 Kawachi, Yahata-ku, Kitakyushu, Fukuoka Prefecture 805-0045 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Yahata แล้วนั่งรถบัส Nishitetsu bus สาย 56 มาลงที่ Kawachi Elementary School แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที |
เวลาทำการ | ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมเปิดเวลา 8.00-18.00 น., ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนธันวาคม 9.00-17.00 น. |
ราคา | ตั้งแต่ 500-1,500 เยน (ขึ้นอยู่กับปริมาณการบานของดอกไม้) |
Website | Kawachi Fuji Garden (Fukuoka) |
6Fushimi Inari Shrine (Kyoto) : ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ
ศาลเจ้า Fushimi Inari แห่งนี้ได้รับสมญานามว่าศาลเจ้าจิ้งจอก อันเป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโตที่มีความศักดิ์สิทธิ์และที่โด่งดัง ชื่อเสียงของศาลเจ้าแห่งนี้นั้นมาจากประตูโทริอิสีแดงที่เรียงตัวกันเป็นซุ้มประตูแนวยาวหลายหมื่นต้้นทั่วทั้งภูเขา ซึ่งบริเวณนี้เองที่เป็นจุดสุดปังที่อยากชวนให้ไปเก็บภาพของเสาโทริอิที่เรียงกันอยู่มากมายเหล่านี้เอาไว้เพราะเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง
Fushimi Inari Shrine (Kyoto)
ที่อยู่ | 68 Fukakusa Yabunouchi-cho, Fushimi-ku, Kyoto City 612-0882 |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Inari จากนั้นเดินต่อประมาณ 2 นาที |
เวลาทำการ | ไม่เสียค่าเข้าชม |
Website | Fushimi Inari Shrine (Kyoto) |
7Lake Ashinoko (Hakone) : ทะเลสาปอะชิโนะโกะ
อีกหนึ่งจุดที่สามารถชมวิวของภูเขาไฟฟูจิได้อย่างงดงามก็คือ บริเวณทะเลสาปอะชิโนะโกะทีเกิดขึ้นจากการประทุของภูเขาไฟฮาโกเนะเมื่อ 3,000 ปีก่อน กลายเป็นทะเลสาปขนาดใหญ่ที่มีทิวทัศน์ด้านหลังเป็นภูเขาไฟฟูขิสุดงดงาม และสามารถมองเห็นภูเขาไฟจากบริเวณได้อย่างขัดเจนในช่วงฤดูหนาว เราจึงสามารถถ่ายทิวทัศน์ความงดงามของภูเขาไฟฟูจิและเรือที่ล่องในทะเลสาปเพื่อชมความงามของภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย
Lake Ashinoko (Hakone)
ที่อยู่ | Motohakone Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa Prefecture 250-0522 Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Odawara มาประมาณ 41 นาที |
Website | Lake Ashinoko (Hakone) |
8Yakushima Island (Kyushu) : ป่ามหัศจรรย์บนเกาะยากุชิมะ
อีกหนึ่งทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจและหาชมได้ยากยิ่งนั้น คือทิวทัศน์ในป่ามหัศจรรย์บนเกาะยูคุชิมะแห่งนี้ ทิวทัศน์สุดหายากของป่านี้นั้นมีเหตุมาจากภายในป่านี้มีต้นสนโบราณอายุยืนยาวหลายพันปีอยู่รวมกัน โดยเชื่อกันว่ามีต้นสนที่อายุกว่า 7,000 ปีอยู่ที่นี่ด้วย
และเนื่องจากภาพในป่าแห่งนี้มีความชื้นตลอดทั้งปี เพราะมีฝนตกเกือบตลอดทั้งปี ทำให้ภายในป่าแห่งนี้เขียวชะอุ่มและดูชุ่มช่ำอยู่เสมอ ใครชอบธรรมชาติและอยากเก็บภาพบรรยากาศความเขียวชะอุ่ม ต้องลองมาที่ป่าแห่งนี้กันดู เพราะสวยงามราวกับต้องมนต์เลยล่ะ
Yakushima Island (Kyushu)
ที่อยู่ | Yakushima, Kumage District, Kagoshima Prefecture 891-4200, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือของเมือง Ibusuki ไปขึ้นฝั่งบนเกาะ Yakushima ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากท่าเรือ Miyanoura โดยรถยนต์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที หรือขึ้นรถบัส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที ราคา 350 เยน |
ราคา | ค่าเข้าเส้นทางเดินป่า 300 เยน |
Website | Yakushima Island (Kyushu) |
9Hitachi Seaside Park (Ibaraki) : สวนฮิตาชิ ซีไซด์
Hitachi Seaside Park เป็นทุ่งดอกไม้ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทุ่งดอกไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ในอิบารากิซึ่งมีพิกัดอยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียว ความสวยงามของทุ่งดอกไม้แห่งนี้ก็คือมีดอกโคเชียสีฟ้าอมเขียวบานอยู่สุดลูกหูลูกตาเป็นภาพที่สวยงามจับใจ แถมดอกโคเชียเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดสวยงามแปลกตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย
Hitachi Seaside Park (Ibaraki)
ที่อยู่ | 605-4 Onuma-aza, Mawatari, Hitachinaka, Ibaraki 312-0012, Japan |
---|---|
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสหมายเลขสองจากสถานี Katsuta ไปลงป้าย Kaihin Koen Nishiguchi เป็นประตูเข้าสวนทางด้านตะวันตก |
เวลาทำการ | 9.30-17.00 น. |
ราคา | ผู้ใหญ่ (15 ปีขึ้นไป) 410 เยน ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 210 เยน เด็ก (7-14ปี) 80 เยน |
Website | Hitachi Seaside Park (Ibaraki) |
10Arashiyama Bamboo (Kyoto) : ป่าไผ่อาราชิยามะ
ทางเดินเส้นเล็ก ๆ ในสวนป่าไผ่แห่งอาราชิยามะแห่งนี้ แม้จะเป็นเพียงทางเดินเล็ก ๆ ที่อาจจะดูไม่น่าสนใจแต่บริเวณทางเดินเส้นเล็ก ๆ แห่งนี้แหละที่มีทิวทัศน์ของป่าไผ่ที่สวยงามและเป็นจุดถ่ายรูปแสนสวยที่ใครได้เดินผ่านก็ต้องหยุดเก็บภาพความประทับใจกันไปทุกราย โดยเราจะได้ชมทั้งธรรมชาติและแวะซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ทำจากไม้ไผ่ได้ในบริเวณสวนป่าไผ่แห่งนี้
ตำนานนกกระเรียน
ตำนานนกกระเรียน
เด็กหญิงซาดาโกะ หรือ Sadako Sakaki เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1943 ที่จังหวัด Hiroshima โดยเธอมีอายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น เมื่อจังหวัดฮิโรชิม่าของญี่ปุ่นถูกทิ้งระเบิดปรมาณูในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 จนอาคารบ้านเรือนถูกระเบิดราบเป็นหน้ากลอง
คงจะคุ้นๆ เรื่องราวของเด็กหญิงซาดาโกะกันขึ้นมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ
วันนั้นซาดาโกะ ถูกแรงระเบิดทำให้กระเด็นออกมาจากตัวบ้าน แต่เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบได้ เด็กน้อยวัยเพียง 2 ขวบเศษกลับยังมีชีวิตอยู่ แม้จะไม่เสียชีวิตในทันที แต่ชีวิตของเธอก็กำลังนับถอยหลังลงอย่างช้าๆ และทุกข์ทรมาน
วันนั้นซาดาโกะ ถูกแรงระเบิดทำให้กระเด็นออกมาจากตัวบ้าน แต่เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบได้ เด็กน้อยวัยเพียง 2 ขวบเศษกลับยังมีชีวิตอยู่ แม้จะไม่เสียชีวิตในทันที แต่ชีวิตของเธอก็กำลังนับถอยหลังลงอย่างช้าๆ และทุกข์ทรมาน

ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เด็กหญิงซาดาโกะก็เติบโตขึ้นอย่างสดใส และแข็งแรง เธอชอบกีฬาและรักการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ อย่างไรก็ตามระเบิดปรมาณูไม่ได้ทำลายล้างแต่เพียงสภาพแวดล้อมหรืออาคารบ้าน เรือน แต่ยังส่งผลกระทบต่อร่างกายของชาวฮิโรชิม่าที่รอดชีวิตจำนวนมาก ซึ่งก็รวมถึงไปถึงซาดาโกะด้วย เธอเริ่มมีปัญหาทางด้านพัฒนาการ และถูกตรวจพบว่าเป็นลูคีเมียใน 10 ปีต่อมา
เด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่างซาดาโกะก็มีความฝัน เธอฝันจะเป็นนักวิ่ง และเมื่อเธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 1955 เป็นต้นมา ความฝันของเธอ..แทบไม่มีทางเป็นจริง
กระทั่งเพื่อนรักของซาดาโกะชื่อว่า Chizuko Hamamoto มาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลในเดือนสิงหาคม แล้วทั้งคู่ก็เล่นพับกระดาษกัน … การพับนกกระดาษ หรือนกกระเรียนกระดาษนี้เราอาจจะคิดว่าเป็นแค่การพับเล่นสนุกๆ แต่ชาวญี่ปุ่นก็มีความเชื่อที่เล่าต่อๆ กันมาแล้ว ถ้าใครอยากขอพรอะไร หากใครพับนกกระเรียนได้ครบ 1,000 ตัว เรียกว่า Senbazuru (千羽鶴) พรก็จะสัมฤทธิ์ผล นั่นคือที่มาของการพับนกกระเรียนของเด็กหญิงซาดาโกะ
น่าเสียดาย … เวลาของเธอหมดลง ในขณะที่เธอยังพับนกกระเรียนได้ไม่ครบ 1,000 ตัว (ว่ากันว่าเธอพับได้ถึง 644 ตัว และเมื่อเธอเสียชีวิต เพื่อนและครอบครัวของเธอก็ช่วยกันพับจนครบ และฝังไปพร้อมกับเธอ แต่บ้างก็ว่าซาดาโกะพับนกกระเรียนได้ครบ แถมยังพับมากกว่านั้นเสียอีก)
ในที่สุด เธอก็เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าที่โรงพยาบาลกาชาดแห่งจังหวัดฮิโรชิม่า จากอาการของโรคลูคิเมีย ในวันที่ 25 ตุลาคม 1955 ด้วยวัยเพียง 12 ปีเท่านั้น
มีการกล่าวถึงเรื่องราวของเธอไว้ในหนังสือเรื่อง Sadako and the Thousand paper Cranes ซึ่งเขียนโดย Eleanor Coerr นักเขียนชาวอเมริกัน และยังมีรูปปั้นของเธอแสดงไว้ที่Hiroshima Peace Memorial Museum และอีกหลายๆ แห่ง รวมไปถึงที่ Seattle Peace Park ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย
รูปปั้นซาดาโกะ ที่ Seattle Peace Park (Seattle, USA)

และอาจจะไม่ใช้การรำลึกถึงเรื่องราวของเด็กหญิงซาดาโกะกันโดยตรง แต่ก็น่าจะสามารถอ้างได้ว่าเรื่องราวของเธอ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ถือว่าวันที่ 6 สิงหาคม (วันที่มีการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่า) ของทุกปี กลายเป็นวันที่ระลึกถึงสันติภาพ
เรื่องราวของเธอโด่งดังไปทั่วโลก …จนกลายเป็นเสมือนเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับผล ร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างไรจากสงคราม และสันติภาพนั้นมีความสำคัญขนาดไหน รวมไปถึงนกกระเรียนกระดาษพันตัว ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น